Tuesday 23 October 2012

เที่ยวดอยอินทนนท์ แบบ หนาว หนาว 2







ขอเล่าต่อกันเลยนะครับ หลังจากเข้ามาถึงหมู่บ้านแม่กลางหลวงแห่งนี้แล้ว ก็ต้องมาติดต่อ บ้านผู้ใหญ่ของที่นี่ก่อน ซึ่งก็ถือว่าเป็น จุดเริ่มต้นของการเดินเท้าเพื่อการเรียนรู้






ตัวบ้านของผู้ใหญ่ก็เป็นบ้านไม้ หลังคามุงด้วยวัสดุจากธรรมชาติ บรรยากาศดู ชิล ชิล มาก
เข้ามาถึงก็ต้องประทับใจกันอีกแล้วกับการต้อนรับด้วยกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ที่ชาวหมู่บ้านแห่งนี้เค้าปลูกกันเอง บดกันเห็นๆ จะๆ และ วิธีชงกาแฟสดของที่นี่ ไม่ธรรมดาจริงๆครับ ต้มน้ำด้วยกองไม้สุมไฟ แล้วก็นำกาแฟที่บดสดๆ มากรอง แล้วก็ชงเสิรฟ์ได้เลย รสชาติเข้มข้น ถูกใจ คอกาแฟแบบผมที่สุด ผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกไอ้เครื่องนี้ว่าอะไร แค่รู้ว่ามันเท่ห์มากครับ



 เครื่องบดกาแฟที่ได้ใจผมไปเลยคับ

ต้มน้ำกับกองไม้กองฟืน




ให้นายแบบลองทำดูบ้าง 

Classic จริงๆครับ




พอลิ้มลองกาแฟเสร็จแล้ว ก็ถึงคราวที่ผู้ใหญ่จะเริ่ม brief  พวกเราถึงเส้นทางการเรียนรู้แห่งนี้ ดูแกมีความสุขมากๆ เมื่อมีแขกมาเยือน และ ได้มาชมธรรมชาติและสิ่งต่างๆที่แกได้รักษาไว้ เจอคนแบบนี้ผมอยากจะขออนุญาตเอานิ้วโป้งประทับลงบนหน้าอกข้างซ้ายของผู้ใหญ่ แล้วกด Like ให้ไปเลยครับ หัวใจพี่ผู้ใหญ่หล่อมาก เส้นทางการเดินก็จะมีระยะทาง 3 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยจะมีชาวบ้านที่รับอาสาเป็น ไกด์นำเที่ยวคิดค่าบริการเพียง 200 บาท จากจุดเริ่มต้นก็จะผ่านป่าใหญ่อันอุดมสมบูรณ์ เดินไปก็รู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในฉากหนัง AVATAR ยังไงยังงั้นเลย ไฮไลท์ของทริปนี้ ก็จะมี น้ำตกดอกผาเสี้ยว ขั้นที่ 7 หรือ น้ำตกรักจัง ซึ่งชื่อนี้มาจากที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำ หนังเรื่องรักจัง
ที่ฟิลม์ รัฐภูมิ เล่นคู่กับ แอนนี่ บรู๊ค อิอิ ล้อเล่น พอลล่าคับ




ออกเดินทาง กายพร้อมใจพร้อม


บรรยากาศผืนป่า งดงามมากครับ

เดินชื่นชมผืนป่ามาได้ซักพัก ก็จะมาถึงน้ำตกผาดอกเสี้ยว ขั้นที่ 9 แค่ขั้นนี้ผมก็ว่าสุดยอดแล้วครับ ลองจุ่มน้ำดูก็เย็นชื่นใจ อากาศก็ดี เหมือนได้มา detox รู้สึกผ่อนคลาย ลืมเรื่องงานอันแสนเหน็ดเหนื่อยจากเมืองหลวงไปเลยทีเดียวเชียว



น้ำตกผาดอกเสี้ยว ขั้นที่ 9



ใช้เวลาอยู่ที่นี่เกือบ 20 นาที ก็ออกเดินทางต่อระหว่างทางเดินไป ก็จะมีสายน้ำตกไหลเรื่อยๆผ่าน โขดหินน้อยใหญ่ไปตลอดทาง



ต่อไปเราก็จะเดินทางไปยังน้ำตกผาดอกเสี้ยว ขั้นที่ 7 หรือ น้ำตกรักจังสถานที่ถ่ายทำ หนังเรื่องรักจัง กันเลย ระหว่างทางเดินไปเส้นทางก็ออกแนว adventureใช้ได้ มีทั้งทางเดินที่เริ่มแคบลง ต้องเดินลงแนวเขาที่ลาดลงไป ค่อนข้างชัน แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากจนอันตราย แต่ทำให้รู้สึกตื่นเต้น ได้เหงื่อดี อากาศในตอนสายนี้ ความหนาวก็ลดน้อยลง และ เริ่มมีแสงแดดอ่อนๆ ผ่านแนวต้นไม้ใหญ่ลงมา Romantic มากครับ



ใครชอบแนว adventure ไม่ผิดหวังแน่นอนคับ


เดินมาได้เกือบ 15 นาที ก็ถึงน้ำตกรักจังแล้วครับ ผมรีบมองหา น้องพอลล่าอย่างจริงจังเมื่อมาถึง แต่สุดท้ายก็ไม่พบครับ ความงามของน้ำตกรักจัง นี่สวยงามเกินบรรยาย อย่าลืมมาเที่ยวกันนะครับ







ออกจากจุดเริ่มต้นตั้งแต่ตอนเกือบ 11 โมง ถึงตอนนี้ก็บ่ายโมงนิดๆแล้ว ท้องเริ่มร้อง ก็เลยต้องจัดข้าวเหนียวพร้อมไก่ย่าง หมูย่าง ที่ซื้อมาจากน้ำตกวชิรธารมารองท้องกันไปก่อน ^^

กินไปก็รู้สึกว่าตัวเองเป็น พี่ติ๊กมาถ่ายทำรายการ Navigator ไป  มีฟามสุขที่สุด


อิ่มท้องกันแล้วก็ไปต่อกันเลยครับ ต่อไปก็เป็นทุ่งนาขั้นบันได ซึ่งก็จะเป็นการเดินออกจากแนวป่าใหญ่ไป ตอนแรกที่ได้ยินก็คิดว่าจะไปดูมันทำไมทุ่งนาเนี่ย ไม่เหมาะกับคนมี style แบบเรา แต่พอเห็นแล้ว โอ๊ พระเจ้าจอรจ์มันยอดมาก พี่ไกด์ยังบอกว่าทุ่งนาแห่งนี้ ได้รับความนิยมเป็นสถานที่ถ่ายทำ หนัง หรือ ฉากใน Production ต่างๆมาหลายครั้งแล้วอีกด้วย



สวยใช่ม้ายยยย



ชื่นชมความสวยงาม ทุ่งนาขั้นบันไดเสร็จ ควาวนี้ก็จะเป็นเส้นทางสุดท้ายอีกประมาณ ซักครึ่งชั่วโมงก็จะถึงจุดสิ้นสุดครับ ระหว่างทางก็จะมีทั้ง แปลงดอกไม้เมืองหนาวขนาดใหญ่ ต้นกาแฟอาราบิก้า ไปตลอดทางเดิน ดูแล้วแสนสบายตา และ สบายใจ



วิวสวยๆ เมืองไทยของเราเอง

ต้นกาแฟ อาราบิก้า

เห็นระฆังโบสท์เมื่อไหร่ แสดงว่าถึงทางออกแล้ว 

ในที่สุดก็ถึงจุดสิ้นสุด ตลอดเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง แปลกครับที่ผมไม่รู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยเท่าไหร่เลย คงเป็นเพราะอากาศที่บริสุทธิ์ วิวที่สวยงาม ทำให้ผมลืมเวลาไปเลย พูดไปสองไพเบี้ยไว้มาเที่ยวเองแล้วจะรู้ครับ 5555555

เมื่อมาถึงทางออกก็มีน้องหมามารอรับอยู่


มีร้านกาแฟสดอยู่ที่ปากทางออกด้วย
















Sunday 21 October 2012

เที่ยวดอยอินทนนท์ Doi Inthanon แบบหนาว หนาว

สวัสดีเจ้า วันนี้ได้มาถ่ายทำงาน vdo  ที่เชียงใหม่ เกิดมายังไม่เคยได้มาอุทยานหลวงดอยอินทนนท์เลย รู้สึกตื่นเต้นมากๆ
อากาศเมืองเชียงใหม่ ตอนเข้าสู่ปลายเดือนตุลาคม 2012 นี่ก็เริ่มหนาวแล้วคับ ผมก็เลยต้องจัดชุดเต็มนิดนึง อิอิ เราออกเดินทางโดยรถตู้จากเมืองเชียงใหม่ ก็จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ในการเดินทางมาถึงทางขึ้นดอยอินทนนท์ โดยค่าขึ้นดอยคนไทยก็ 20 บาทต่อท่าน ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ คนละ 200 บาท

อยู่กทมคงไม่ได้แต่งแบบนี้คับ ^^
จุดแรกที่เราได้ขึ้นไปเที่ยวก็คือ น้ำตกวชิรธาร ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เห็น ก็ประทับใจมากเหมือนได้ไปพารากอนครั้งแรกเกี่ยวมั้ยเนี่ย ตะลึงไปกับความสวยงามของธรรมชาติที่นี่มาก อากาศที่นี่เย็นสบายจากจุดนี้ยังถือว่ายังขึ้นมาไม่ได้สูงเท่าไหร่นัก




คงเป็นความโชคดีของผมเพราะได้เห็นสายรุ้งที่แสนสวยงามที่น้ำตกแห่งนี้อีกด้วย ได้โชค2ชั้นจริงๆ




















ที่นี่ยังมีร้านกาแฟอาราบิก้าแท้ที่ปลูกโดยชาวเขารสชาติเข้มข้น หอมกรุ่น เหมาะกับการดื่มเคล้ากับบรรยากาศอันแสนงดงาม หลังจากผมเดินทอดอารมณ์อยู่ที่นี่เกือบครึ่งชั่วโมง แอบนึกว่าตัวเองเป็นพระเอกเกาหลีที่จะได้มาปิ๊งรักกับนางเอกในฝัน ซักพักเลยกลับมาสู่โลกความจริง โดยทีมงานมาเรียกว่าจะออกเดินทางไปอีกจุดนึงแล้ว ตื่นเลยอะ


จุดต่อไปที่เราได้ไปคือ ศูนย์บริการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หมู่บ้านแม่กลางหลวง สำหรับผมถือว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลยครับ  


ที่หมู่บ้านแม่กลางหลวงแห่งนี้ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเรียนรู้ แนว Eco Tourism ผ่านการเดินเท้า ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 3 กม.  โดยส่วนตัวจริงๆไม่ชอบอะไรแบบนี้นะครับในตอนแรก เพราะกลัวลำบากมีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีจากตอนเรียน รด แต่หลังจากจบทริปแล้ว อยากจะร้องว่า The Best คับ ไว้มาเล่าต่อนะครับว่าที่นี่มีอะไรให้ชายหนุ่มรูปงามอย่างผมเปลี่ยนใจได้ ตอนนี้ขอตัวไปนอนก่อน have a good dream คับ พี่น้องชาวไทย